แคนาดา เป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในหลายปีด้วยแคนาดาเป็นประเทศมีระบบการศึกษาได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติสวยงามยังไม่ค่อยถูกทำลายจากมนุษย์ หากผู้ปกครองหรือนักเรียนที่กำลังมองหาโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศที่คุ้มค่าต่อการไปเรียนไปอยู่บอกเลยว่าการไปแคนาดาสักครั้งจะทำให้น้องๆ ได้ทั้งความประทับใจ
อากาศที่แคนาดา เป็นอากาศที่ค่อนข้างเย็นและหนาวมากในบางเมืองของแคนาดา ดูจากรูปด้านล่างโดยปกติคนจะอาศัยอยู่แถบชายฝั่งทะเลไม่ซ้ายก็ด้านขวาของประเทศจึงมีอากาศที่อบอุ่นกว่าตัวอย่างเช่น ฝั่งซ้ายของประเทศโดยเฉพาะ เมืองแวนคูเว่อร์
ตรงกลางประเทศก็จะมีเมืองขนาดใหญ่ที่คนไทยนิยมไปก็คือ เมืองโตรอนโต ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีความายิ่งใหญ่ของเมืองและระบบการคมนาคมขนส่งที่ดีเยี่ยม ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ ส่วนฝั่งขวาสุดก็เป็นอีกด้านที่ใกล้ น้ำตกไนแองกาล่าที่มีขนาดใหญ่ และ มีความสวยงามระดับโลก
Rocky Mountains หุบเขาร็อคกี้
มีความสวยงามและยิ่งใหญ่มากที่สุดในแคนาดาเป็นแนวเทือกเขาที่ทอดข้ามผ่านตั้งแต่ทางรัฐบริติชโคลัมเบียแคนาดายาวไปจนถึงรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา จุดที่นิยมไปเที่ยวชมเทือกเขาร็อกกีจะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) และ อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ (Jasper National Park) รัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) ดินแดนของไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์ในสมัยก่อนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปสามารถที่จะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปยังจุดชมวิวด้านบนยอดเขาในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์เพื่อชมวิวเทือกเขาร็อกกี้สุดตระการตามีทางเดินริมเขาสูงให้ได้เดินชมภูเขากันอย่างจุใจ เมืองแถบนี้มีโรงเรียนมัธยมที่น่าสนใจทั้งแบบประจำและแบบไปกลับ
อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park)
ท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดามีป่าเขาที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์มาก ๆ เหมาะกับการเดินป่า มีความงดงามติดอันดับต้น ๆ ของโลก Banff Avenue เป็นเมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขาสูงใหญ่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีร้านค้า คาเฟ่ โดยเฉพาะในฤดูหนาว เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นสีขาวให้ความรู้สึกราวกับเป็นเมืองในฝันเลยทีเดียว
ทะเลสาบ Lake Louise
ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกมีลักษณะพิเศษ คือ ทะเลสาบจะมีสีฟ้าเขียวมรกตรายล้อมด้วยเทือกเขาสูงใหญ่ นักท่องเที่ยวมองเห็นหิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดเขามีการเล่นหิมะและการเล่นไอซ์สเกตในทะเลสาบ และมีเทือกเขาให้ปีนป่ายเล่นสกีอย่างสนุกสนานอีกด้วย
สวนสแตนลีย์ ปาร์ค (Stanley Park)
สวนสาธารณะขนาดที่ตั้งอยู่ในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย คนนิยมออกไปออกกำลังกาย ต้นไม้หลากหลาย จุดชมวิวเมืองแวนคูเวอร์มีเส้นทางปั่นจักรยานสุดชิล
สวน Butchart Gardens
สวนดอกไม้ที่สวยงามมากที่สุดในโลกเชื่อได้เลยว่าจะต้องมีชื่อของ The Butchart Gardens เมือง Brentwood Bay รัฐบริติชโคลัมเบีย รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอนที่นี่เป็นสวนดอกไม้ที่มีประวัติยาวนานภายในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ที่ผลัดกันออกดอกบานสะพรั่งตลอดทั้งปีซึ่งจะมีการแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดสวนในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนยังเหมาะแก่การสัมผัสประสบการณ์พิเศษอย่างที่นี่อีกด้วย
น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls)
ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ระหว่างชายแดนรัฐนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา และรัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งน้ำตกแห่งนี้จะประกอบด้วย 3 น้ำตกด้วยกัน คือ
1. น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls) อยู่ทางฝั่งแคนาดา
2. น้ำตกอเมริกา (American Falls) อยู่ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา และ
3. น้ำตก Bridal Veil อยู่ทางฝั่งอเมริกาเช่นกัน.
ซึ่งถ้าอยากเห็นน้ำตกทั้ง 3 แห่งในมุมสูง หอคอยชมวิวได้จากทางฝั่งแคนาดา และทางฝั่งนี้ยังสามารถมองเห็นน้ำตกไนแอการาในวิวพาโนรามาได้แบบสวยสุด ๆ อีกด้วยหากใครมาเที่ยวชมในช่วงหน้าหนาวก็จะเห็นน้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงน้ำตกไนแอการายังมีไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ให้เข้าไปเยี่ยมชมหลายแห่งชมไร่องุ่น กระบวนการผลิต Ice wine และการชิมไวน์เป็นกิจกรรมยอดฮิต
เมืองวิกตอเรีย (Victoria)
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแคนาดาอยู่บนเกาะแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย เป็นเมืองท่าสุดเก่าแก่เมืองประวัติศาสตร์ เพราะเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองหลวงของแคนาดาจะได้เห็นอาคารและตึกต่าง ๆ มากมายในเมืองนี้ที่มีรูปแบบศิลปะแบบโกธิค ยังคงได้เห็นรถม้านำเที่ยวและวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของคนท้องถิ่น นอกจากนี้วิกตอเรียยังได้ชื่อว่าเป็น City of Gardens รอบ ๆ เมืองเต็มไปด้วยต้นไม้และสวนสวย ๆ มากมาย และการมาเที่ยวที่นี่ต้องไม่พลาดที่จะลองชิมอาหารทะเลสดใหม่รวมทั้งการเดินเล่นรอบ ๆ เมืองสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของเมืองวิกตอเรีย
เมืองออตตาวา (Ottawa)
เมืองหลวงออตตาวา (Ottawa) ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์มากที่สุดใครที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมจะต้องหลงรักเมืองแห่งนี้แน่นอน ออตตาวาอาจจะแตกต่างจากคำว่าเมืองหลวงที่หลายคนจินตนาการสักเล็กน้อย เพราะที่นี่ไม่ค่อยมีตึกและอาคารสูง ๆ รูปแบบทันสมัยเยอะมากนักจะได้เห็นอาคารในรูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโกธิคเสียเป็นส่วนใหญ่
เมืองมอนทรีออล
ตั้งอยู่ในรัฐควิเบก (Quebec) ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเจริญและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่งดงามไม่แพ้เมืองไหน ๆ ของแคนาดา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศนี้เลยทีเดียว และประชากรส่วนใหญ่ก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะช่วงหนึ่งในอดีตที่นี่เคยได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส บรรยากาศรอบ ๆ เมืองจึงมีความคล้ายกับยุโรปนิด ๆ ที่นี่จึงน่าเที่ยวและน่าอยู่ที่สุดในโลกอีกหนึ่งเมืองสิ่งที่ไม่อยากให้พลาดหนึ่งอย่างในการมาเที่ยวมอนทรีออลก็คือการไปเที่ยวเขต Old Montreal ซึ่งจะเต็มไปด้วยตึกเก่าแก่สวย ๆ มากมาย มีร้านอาหารพื้นเมืองร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟเก๋ ๆ ให้เลือกนั่งพักผ่อนเพียบ
Saint Joseph's Oratory
เมืองมอนทรีออล (Montreal) ตั้งอยู่บนยอดเขา Mount Royal เป็นมหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองมอนทรีออลและเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดาสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1904 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ภายในแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ด้านนอกรายล้อมไปด้วยสวนสีเขียว และยังมีจุดชมวิวเมืองมอนทรีออลที่สวยงามมาก ๆ อีกด้วย
เมืองควิเบก (Quebec City)
เป็นเมืองเอกของรัฐควิเบกที่นี่ได้ฉายาว่ายุโรปแห่งอเมริกาเหนือ เพราะอาคารบ้านเรือนจะมีลักษณะศิลปะแบบยุโรปเสียส่วนใหญ่ เป็นเมืองที่มีอากาศหนาวตลอดทั้งปีและผู้คนส่วนมากจะพูดภาษาฝรั่งเศสจึงทำให้บรรยากาศของเมืองควิเบกคล้ายคลึงกับยุโรปเลยทีเดียว และนั่นจึงทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่โรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถานที่ท่องเที่ยวควิเบกที่ห้ามพลาด
เมืองโตรอนโต
เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในแคนาดามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วภายในเมืองเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า และอาคารสุดทันสมัยมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติต่างแวะเวียนมาอยู่อาศัยและเที่ยวชมตัวเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบออนแทรีโอ (Lake Ontario) ที่นี่จึงมีบรรยากาศที่น่าหลงใหลไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องหลงรัก ตลาดสดที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดาเคยได้รับการจัดอันดับจาก National Geographic ให้เป็นตลาดอาหารที่ดีที่สุดในโลก (April 2012) โดยตลาดสดแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนน Front St. East และ Jarvis St. ในเมืองโทรอนโต โดดเด่นด้วยอาคารสไตล์ยุโรปเก่าแก่ แบ่งออกเป็น 3 โซน คือโซน The South Market โซนนี้จะขายผัก-ผลไม้พื้นเมือง และของสดต่าง ๆ, โซน The North Market เป็นพื้นที่ตลาดชุมชน ฟาร์มต่าง ๆ จะนำสินค้าสด ๆ มาขายทุกวันเสาร์ และโซน St. Lawrence Hall ตลาดแห่งนี้จะปิดทุกวันอาทิตย์
เมืองเยลโลไนฟ์ (Yellowknife)
ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของประเทศแคนาดาติดกับทะเลสาบ Great Slave Lake ในนอร์ทเวสต์เทอร์ริทอรีส์ (Northwest Territories) มีลักษณะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ก็ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแถบนี้และแน่นอนว่าเมืองเยลโลไนฟ์จะต้องมีอากาศที่หนาวเย็นมากโดยเฉพาะหน้าหนาวที่บางปีอากาศจะติดลบลงไปถึง -50 องศาเซลเซียส แล้วเมืองนี้มีอะไรน่าเที่ยว ? บอกเลยว่าที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ชมแสงเหนือ (Aurora) ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในหน้าหนาวนักท่องเที่ยวจะแห่มาเยือนที่นี่กันมากมายเพื่อชมความสวยงามของแสงเต้นระบำบนฟากฟ้าใครอยากมีประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครอย่าได้พลาดเมืองนี้ไปเป็นอันขาด
วิสต์เลอร์ (Whistler)
ตั้งอยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบียไม่ไกลจากเมืองแวนคูเวอร์เท่าไรนักเป็นหมู่บ้านรีสอร์ทที่สวยงามมาก ๆ ของแคนาดาโดยรอบ ๆ จะมีแนวเทือกเขาสูงใหญ่โอบล้อม มีธรรมชาติที่งดงาม บรรยากาศเย็นสบายและโรแมนติกมีสกีรีสอร์ทใหญ่โต ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางของการเล่นสกีที่ชาวแคนาดาและนักท่องเที่ยวอยากจะมาสัมผัสมากที่สุด ที่มา sanook.com
★ ค่าครองชีพแคนาดา
▸ ค่ารถประจำทางเที่ยวเดียว เฉลี่ย $2-$3
▸ ค่าโทรศัพท์+อินเตอร์เน็ต เฉลี่ย $50 ต่อเดือน
▸ ค่าอาหาร Fast-food เฉลี่ยคนละ $7-10/มื้อ
▸ ค่าอาหารนั่งที่ร้านอาหาร เฉลี่ยคนละ $15- 25/มื้อ
★ สกุลเงินของแคนาดา
เงินที่ใช้กันทั่วไปในแคนาดา ได้แก่
▸ ธนบัตรมูลค่า $5, $10, $20, $50 และ $100
▸ เหรียญก็มี เช่น เหรียญราคา 1 และ 2 ดอลลาร์ มีชื่อเรียกคือ $1 (เรียกว่า loony) และ $2 (เรียกว่า toony)
★ ภูมิประเทศแคนาดา
แคนาดามีเนื้อที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ที่ประกอบด้วย 10 รัฐ (provinces) และ 3 ดินแดน (territories)
★ รัฐของแคนาดา
▸ Alberta
▸ British Columbia คนไทยนิยมไปเรียนและเที่ยวมากที่สุด
▸ Manitoba
▸ New Brunswick
▸ Newfoundland and Labrador
▸ Nova Scotia
▸ Ontario
▸ Prince Edward Island
▸ Quebec
▸ Saskatchewan
★ ดินแดนของแคนาดา
▸ Northwest Territories
▸ Nunavut
▸ Yukon
#ข้อมูลแคนาดา
#เรียนต่อแคนาดา